ปี 2025 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของศิลปินไทยบนเวทีนานาชาติ เมื่อ “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” หรือที่รู้จักในนาม “Mike Angelo” ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการรับบทพระเอกเต็มตัวในภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์เรื่อง “不能错过的只有你2” หรือ “Nobody But You” นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของนักแสดงไทยในตลาดจีนที่มีการแข่งขันสูงและโอกาสสำหรับนักแสดงต่างชาติเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง
จากนักร้องไทยสู่ซุปตาร์อินเตอร์ในแดนมังกร
ไมค์ พิรัชต์ เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงไทยในฐานะนักร้องนำวงบอยแบนด์ชื่อดัง ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักแสดงที่มีผลงานโดดเด่นในหลากหลายบทบาท แต่น้อยคนจะทราบว่าเขาได้สร้างฐานแฟนคลับมหาศาลในประเทศจีนมาอย่างต่อเนื่องกว่าทศวรรษ ด้วยผลงานซีรีส์จีนหลายเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม “Nobody But You” นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาได้รับบทพระเอกเต็มตัวในภาพยนตร์จีนเรื่องใหญ่
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นมากๆ ครับ เพราะโอกาสแบบนี้สำหรับนักแสดงต่างชาติในวงการภาพยนตร์จีนถือว่ายากมาก” ไมค์กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “คนจีนให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมและภาษาของตัวเองมาก การที่พวกเขาเปิดโอกาสให้ผมได้รับบทนำในภาพยนตร์ระดับนี้ ถือเป็นความไว้วางใจที่ยิ่งใหญ่มากครับ”
เบื้องหลังความสำเร็จกับความท้าทายสุดพิเศษ
ไมค์เล่าถึงการเตรียมตัวสำหรับบทบาทนี้ว่าต้องใช้ความทุ่มเทอย่างมาก “ก่อนเปิดกล้อง ผมต้องฝึกฝนภาษาจีนเพิ่มเติมอย่างหนัก เพราะในภาพยนตร์เรื่องนี้ผมต้องพูดภาษาจีนตลอดทั้งเรื่องและใช้เสียงจริงของตัวเอง ไม่มีการพากย์ทับ ซึ่งหมายความว่าสำเนียงและการออกเสียงต้องชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากที่สุด”
นอกจากการฝึกภาษาแล้ว ไมค์ยังต้องเตรียมตัวด้านการแสดงอย่างเข้มข้น “ตัวละครที่ผมรับบทในเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน เขาเป็นคนที่มีบาดแผลในอดีต มีความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ภายนอกกลับแสดงออกเป็นคนตรงไปตรงมา ทำให้ผมต้องศึกษาจิตวิทยาตัวละครอย่างลึกซึ้งเพื่อถ่ายทอดอารมณ์เหล่านั้นออกมาให้สมจริงที่สุด”
การร่วมงานกับทีมงานระดับแนวหน้าของจีน
“Nobody But You” ได้รับการกำกับโดย “เฉินเฉิน” ผู้กำกับมากฝีมือที่มีผลงานโดดเด่นในวงการภาพยนตร์จีน และไมค์ได้ร่วมงานกับนางเอกสาวมากความสามารถอย่าง “หลี่เหมิงเหมิง” ดาราสาวชื่อดังของจีน
“การได้ร่วมงานกับทีมงานระดับมืออาชีพของจีนเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากสำหรับผม” ไมค์เล่า “วันแรกของการถ่ายทำ ผมยอมรับว่ารู้สึกประหม่าและกดดันพอสมควร แต่ผู้กำกับและทีมงานทุกคนให้การต้อนรับและช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี ทำให้ผมปรับตัวได้เร็วและการถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่น”
ไมค์ยังเผยอีกว่า “หลี่เหมิงเหมิง” คู่ขวัญในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นนักแสดงที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก “เธอช่วยให้คำแนะนำผมในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะเทคนิคการแสดงและการใช้ภาษาจีนในบางฉากที่ต้องการอารมณ์เฉพาะ การได้ร่วมงานกับเธอทำให้ผมได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการแสดงของตัวเองมากขึ้น”
ตลาดจีน: โอกาสและความท้าทายสำหรับศิลปินไทย
การก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกในภาพยนตร์จีนของไมค์ พิรัชต์ ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการเปิดประตูโอกาสให้กับศิลปินไทยคนอื่นๆ ที่มีความฝันอยากก้าวไกลในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
“ผมเชื่อว่าศิลปินไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก” ไมค์กล่าว “สิ่งที่เราอาจจะขาดคือโอกาสและการสนับสนุนในระดับนานาชาติ ผมหวังว่าความสำเร็จเล็กๆ ของผมในครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ในวงการที่อยากจะก้าวออกไปสู่เวทีโลก และเป็นการยืนยันว่าคนไทยทำได้จริงๆ”
ไมค์ยังเผยถึงแผนงานในอนาคตว่า เขายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานทั้งในประเทศไทยและจีนอย่างต่อเนื่อง “ผมรักการทำงานทั้งที่ไทยและจีน ทั้งสองประเทศมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การได้เรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมที่หลากหลายทำให้ผมเติบโตทั้งในฐานะศิลปินและในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง”
ความคาดหวังและความตื่นเต้นจากแฟนคลับทั่วเอเชีย
กระแสตอบรับจากแฟนคลับทั้งในไทยและจีนต่อการประกาศข่าวนี้เป็นไปอย่างล้นหลาม แฟนคลับต่างแสดงความยินดีและตั้งตารอชมผลงานชิ้นนี้ของไมค์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ หลายคนวางแผนจะเดินทางไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงโรงภาพยนตร์ในประเทศจีนเลยทีเดียว
“ผมขอขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่คอยสนับสนุนผมมาตลอด” ไมค์กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับชาวไทย แฟนคลับชาวจีน หรือแฟนคลับจากประเทศอื่นๆ ทุกคนคือกำลังใจสำคัญที่ทำให้ผมมุ่งมั่นและพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ผมสัญญาว่าจะทำงานหนักและนำเสนอผลงานที่ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความรักและการสนับสนุนของทุกคน”
บทสรุปแห่งความสำเร็จและก้าวต่อไปบนเส้นทางดารา
การได้รับบทพระเอกในภาพยนตร์จีนของไมค์ พิรัชต์ ไม่ใช่เพียงจุดสูงสุดของอาชีพการงาน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสอีกมากมาย
“Nobody But You” มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศจีนในช่วงปลายปี 2025 และมีแผนจะขยายการฉายไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียรวมถึงประเทศไทยด้วย แฟนๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียทางการของไมค์ พิรัชต์ และช่องทางประชาสัมพันธ์ของภาพยนตร์
สำหรับใครที่รอคอยผลงานของไมค์ในประเทศไทย เขายังเผยอีกว่า “ผมยังคงเปิดรับงานในประเทศไทยเสมอ ทั้งละคร ภาพยนตร์ หรือรายการต่างๆ ผู้จัดหรือใครที่สนใจสามารถติดต่อเข้ามาได้ทุกเมื่อ ผมยินดีและตั้งตารอที่จะกลับมาทำงานในบ้านเกิดของตัวเองครับ”
ไมค์ พิรัชต์ คือตัวอย่างของคนไทยที่กล้าฝัน กล้าทำ และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง จนสามารถก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ ทำให้คนไทยทั้งประเทศภูมิใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีความฝันอยากก้าวไกลสู่เวทีโลกต่อไป