โรงเรียนนานาชาติมิลล์ฮิลล์ ประเทศไทย: ความสำเร็จก้าวแรกสู่การศึกษาระดับโลก

ความคืบหน้าโครงการโรงเรียนนานาชาติชั้นนำจากสหราชอาณาจักรสู่ประเทศไทย

บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ORN ได้รายงานความคืบหน้าอันน่ายินดีเกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติมิลล์ฮิลล์ ประเทศไทย (Mill Hill School Thailand) โดยนายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และนักลงทุนทั่วไปถึงพัฒนาการสำคัญของโครงการการศึกษาที่ทุกฝ่ายรอคอย

โรงเรียนนานาชาติมิลล์ฮิลล์ ประเทศไทย ดำเนินการภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท อรสิริน เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (ORE) ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนอย่างเป็นทางการ โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้พิจารณาอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนอย่างเป็นทางการ ภายใต้โรงเรียนในระบบ ประเภทนานาชาติ ตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 (รวมถึงฉบับที่มีแก้ไขเพิ่มเติม) นับเป็นก้าวสำคัญที่เปิดทางให้โรงเรียนสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้อย่างเต็มรูปแบบ

ความสำเร็จของการก่อสร้างและความพร้อมด้านสถานที่

ปัจจุบันโครงการก่อสร้างได้ดำเนินมาถึงจุดสำคัญ โดยอาคารหลักทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเปิดภาคเรียนแรกได้เสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดเวลา ประกอบด้วย:

• อาคารอำนวยการ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการและให้บริการแก่นักเรียนและผู้ปกครอง
• อาคารเรียนชั้นปฐมวัย ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กในวัยเริ่มต้น
• อาคารประกอบอาหาร ที่จะให้บริการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับนักเรียนทุกวัย

การก่อสร้างที่เสร็จสมบูรณ์ตามแผนการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินโครงการตามพันธสัญญาที่ให้ไว้กับนักลงทุนและผู้ปกครอง อีกทั้งยังสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ของกลุ่มบริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง

ความพร้อมด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน

โรงเรียนนานาชาติมิลล์ฮิลล์ ประเทศไทย มีความพร้อมในการเปิดการเรียนการสอนรวมทั้งสิ้น 8 ชั้นปี ตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาล ไปจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (หรือ Year 6 ตามระบบการศึกษาของอังกฤษ) โดยมีกำหนดเปิดภาคเรียนแรกในเดือนกันยายน 2568

หลักสูตรที่ใช้ในการเรียนการสอนเป็นหลักสูตรที่ได้รับการพัฒนาโดยตรงจาก Mill Hill School ประเทศอังกฤษ สถาบันการศึกษาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี และมีชื่อเสียงด้านมาตรฐานการศึกษาระดับสูง โดยหลักสูตรดังกล่าวจะผสมผสานความเป็นเลิศทางวิชาการตามรูปแบบอังกฤษเข้ากับการพัฒนาทักษะสำหรับศตวรรษที่ 21 และความเข้าใจในบริบทของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเรียนการสอนจะเน้นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเป็นเลิศในวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และศิลปะ ภายใต้ปรัชญาการศึกษาที่มุ่งพัฒนาเด็กแบบองค์รวม โดยคำนึงถึงทั้งความก้าวหน้าทางวิชาการและการเติบโตด้านสังคม อารมณ์ และคุณธรรม

ความสำเร็จด้านการรับสมัครนักเรียน

ผลตอบรับจากผู้ปกครองทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อการเปิดรับสมัครนักเรียนรุ่นแรกเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยมีจำนวนนักเรียนที่สมัครเข้ามาแล้วมากกว่า 200 คน และในจำนวนนี้มีนักเรียนที่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานของสหราชอาณาจักรแล้วถึง 120 คน

สัดส่วนของนักเรียนประกอบด้วยนักเรียนไทยร้อยละ 55 และนักเรียนต่างชาติร้อยละ 45 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลที่ดีระหว่างความเป็นนานาชาติและการรักษาความเชื่อมโยงกับสังคมไทย นอกจากนี้ ความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมของนักเรียนยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบพหุวัฒนธรรมที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาทักษะสังคมและโลกทัศน์ของเด็กๆ ในยุคโลกาภิวัตน์

ความสำเร็จในการรับสมัครนักเรียนสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ปกครองทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีต่อชื่อเสียงอันโดดเด่นของ Mill Hill School จากสหราชอาณาจักร รวมถึงความไว้วางใจในศักยภาพของกลุ่มบริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง ในการบริหารจัดการสถาบันการศึกษาระดับนานาชาติ

แผนการขยายในอนาคต

บริษัทมีแผนการดำเนินงานระยะต่อไปที่ชัดเจน โดยในเดือนตุลาคม 2568 โรงเรียนจะเปิดรับสมัครนักเรียนเพิ่มเติมในระดับชั้นที่สูงขึ้น คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 2 (Year 7 ถึง Year 9 ตามหลักสูตรระบบอังกฤษ) เพื่อรองรับนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนการปรับเพิ่มจำนวนห้องเรียนจากปัจจุบันที่มี 1 ห้องต่อระดับชั้น เป็น 3 ห้องต่อระดับชั้น เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2569 ทั้งนี้ โรงเรียนยังคงยึดหลัก “คุณภาพมากกว่าปริมาณ” โดยจำกัดจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้ครูสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึงและรักษามาตรฐานการศึกษาระดับนานาชาติไว้อย่างเคร่งครัด

การขยายตัวอย่างมีแผนและเป็นขั้นตอนนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของผู้บริหาร ที่มุ่งสร้างโรงเรียนนานาชาติคุณภาพสูงที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง สามารถให้บริการด้านการศึกษาแก่เยาวชนไทยและต่างชาติได้อย่างต่อเนื่อง

ความหมายต่อวงการการศึกษาและการลงทุน

การเปิดตัวโรงเรียนนานาชาติมิลล์ฮิลล์ ประเทศไทย มีความสำคัญในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการยกระดับมาตรฐานการศึกษานานาชาติในประเทศไทย การสร้างทางเลือกใหม่ให้กับผู้ปกครองที่ต้องการมอบการศึกษาคุณภาพสูงตามแบบอังกฤษให้กับบุตรหลาน และการเสริมสร้างความหลากหลายในภาคการศึกษาเอกชนของไทย

ในแง่ของการลงทุน โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง ไปสู่ภาคการศึกษา ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและมีความยั่งยืนในระยะยาว สอดคล้องกับกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงและสร้างแหล่งรายได้ใหม่ของบริษัท

การที่โครงการสามารถดำเนินไปได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งในด้านการก่อสร้าง การขอใบอนุญาต และการรับสมัครนักเรียน ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนถึงศักยภาพในการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ของทีมผู้บริหาร และแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในระยะยาว

บทสรุปและมุมมองสู่อนาคต

การเปิดโรงเรียนนานาชาติมิลล์ฮิลล์ ประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง ในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจการศึกษา ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทในระยะยาว แต่ยังมีส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาของประเทศไทย และเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนสำหรับโลกยุคใหม่

ความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ ทั้งในด้านการก่อสร้าง การขอใบอนุญาต และการรับสมัครนักเรียน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของทีมผู้บริหารในการผลักดันโครงการให้บรรลุเป้าหมาย

บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการตามแผนงานที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง และพร้อมส่งมอบมาตรฐานการศึกษาระดับสากลแก่เยาวชนในประเทศไทย ด้วยความหวังว่าโรงเรียนนานาชาติมิลล์ฮิลล์ ประเทศไทย จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกลุ่มบริษัท และสร้างคุณค่าระยะยาวแก่ผู้เรียน สังคม และนักลงทุนได้อย่างยั่งยืนต่อไป