กระทรวงสาธารณสุขแห่งรัฐมิสซิสซิปปี ออกประกาศเตือนเมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) ว่าศูนย์ควบคุมพิษแห่งรัฐมิสซิสซิปปี ได้รับโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้นจากคนที่ได้รับยาตัวดังกล่าวที่เรียกกันว่า “ไอเวอร์เม็กติน” และในสายโทรศัพท์ราวๆ 70% เกี่ยวข้องกับการรับประทานยาไอเวอร์เม็กติน สูตรสำหรับปศุสัตว์หรือสัตว์ทั่วไป ที่หาซื้อได้ตามศูนย์ปศุสัตว์ทั้งหลาย
ในขณะที่ไอเวอร์เม็กติน เป็นยากำจัดพยาธิทั้งในคนและสัตว์ แต่สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรรัฐฯ ไม่ได้อนุมัติใช้ไอเวอร์เม็กตินรักษาหรือป้องกันโควิด-19 ในมนุษย์และมันก็ไม่ใช่ยาต่อต้านไวรัสด้วย
“มีการอนุมัติใช้ไอเวอร์เม็กตินทั้งในคนและสัตว์ ขอแนะนำคนไข้ว่าไม่ควรรับประยาใดๆ ที่มีเจตนาเพื่อรักษาสัตว์ และแพทย์เท่านั้นที่ควรเป็นคนสั่งว่าควรใช้ยาไอเวอร์เม็กตินหรือไม่” ประกาศเตือนของกระทรวงสาธารณสุขมิสซิสซิปปีระบุ
ในประกาศเตือนระบุด้วยว่า “ยาสัตว์มีความเข้มข้นสูงเพื่อสัตว์ขนาดใหญ่ และอาจก่อพิษสูงในมนุษย์ อาการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพิษไอเวอร์เม็กติน มีทั้งเป็นผื่นบนผิวหนัง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีความผิดปกติทางระบบประสาท และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นไวรัสตับอักเสบรุนแรงที่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล”
ข้อมูลในประกาศเตือนระบุว่า ในบรรดาสายโทรศัพท์ที่แจ้งเรื่องเข้ามานั้น มีอยู่ 85% ที่อาการไม่รุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ต้องสั่งให้คนหนึ่งไปตรวจอาการเพิ่มเติม เนื่องจากใช้ยาไอเวอร์เม็กตินในปริมาณมาก
สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ เขียนบนทวิตเตอร์ในวันเสาร์ (21 ส.ค.) ว่า “คุณไม่ใช่ม้า คุณไม่ใช่วัว อย่าล้อเล่นนะ คุณทุกคน หยุดเดี๋ยวนี้”
เมื่อเดือนมีนาคม สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ เคยเตือนประชาชนว่าไม่ควรใช้ยาไอเวอร์เม็กติน ในความพยายามรักษาหรือป้องกันโควิด-19 “การใช้ยานี้ในปริมาณมากนั้นอันตรายและสามารถก่ออันตรายร้ายแรง”
มิสซิสซิปปีกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายลง ด้วยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในวันศุกร์ (20 ส.ค.) นายแพทย์โธมัส ดอบบ์ส เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่งรัฐมิสซิสซิปปี ออกคำสั่งทั่วรัฐบังคับชาวบ้านที่ติดเชื้อโควิด-19 “กักตัวอยู่ในบ้านพักทันทีที่รู้ตัวว่าติดเชื้อไวรัส” เป็นเวลา 10 วัน นับตั้งแต่เริ่มป่วยหรือวันที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกสำหรับคนที่ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ พบว่า มีประชาชนมิสซิสซิปปีแค่ราวๆ 37% ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ต่ำกว่าทั่วประเทศอย่างมาก ขณะที่รัฐแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น / https://m.mgronline.com/around/detail/9640000082626)